ตั้งค่า DNS ใน Godaddy

ที่มา:http://www.indyfolio.com/%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2-dns-%E0%B9%83%E0%B8%99-godaddy.html

เริ่มแรกก็ไปที่หน้าแรกของ Godaddy แล้วเอาลูกศรไปชี้ที่เมนู “Domains” แล้วจะมีเมนูเลื่อนลงมาให้ไปที่ “Domain Management” เลย

 

แล้วกดไปที่ชื่อโดเมนที่จดมาเลยครับ

ก็จะเห็นตามรูปข้างล่าง ตรงลูกศรสีแดง “Nameservers”

แล้วกดคำว่า “Set Nameservers”

ค่า Nameservers สามารถไปเอาได้จาก Host ที่เราไปเช่ามานะตรับ ส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะนี้ครับ ns1.host.com , ns2.host.com
จากรูปข้างล่าง ให้เลือก “I have specific nameservers for my domains” ก็จะมีช่องให้ใส่ Nameservers ก็ใส่ลงไปครับ แล้วก็กด OK

DNS ต้องใช้เวลาในการอัพเดทสักพักนะ อย่าเพิ่งตกใจไปว่าทำไมเปลี่ยน DNS แล้วยังเข้าเว็บไม่ได้นะครับ

JHCIS Query ข้อมูลระบาดวิทยา

SELECT CONCAT(t.titlename,p.fname,' ',p.lname) AS pname,h.hno,h.villcode,h.xgis,h.ygis,vd.sickdatestart,dc.group506name FROM house AS h Inner Join person AS p ON h.pcucode = p.pcucodeperson AND h.hcode = p.hcode Inner Join visit AS v ON p.pcucodeperson = v.pcucodeperson AND p.pid = v.pid Inner Join visitdiag506address AS vd ON v.pcucode = vd.pcucode AND v.visitno = vd.visitno Inner Join cdisease AS d ON vd.diagcode = d.diseasecode Inner Join cdisease506 AS dc ON d.code506 = dc.group506code Inner Join ctitle AS t ON p.prename = t.titlecode WHERE dc.group506code = '02' AND vd.sickdatestart BETWEEN '2002/10/29' AND '2011/10/29' AND SUBSTRING(h.villcode,7,2) <> '00'
ORDER BY h.villcode,h.hno

การนำ text จาก cad แปลงไปเป็น shape ไฟล์

ที่มา http://thaitopo.editboard.com/t31-topic

ใช้โปรแกรม AutoCAD Map ที่ชุดคำสั่ง Map>Tools>Export

ที่แท็บ Selection เลือก Text  

ที่แท็บ Data เลือก Select Attributes

ขยาย + Properties แล้วติ๊กเลือกที่ STRING (ถ้าต้องการค่า Geometry อื่นๆ ก็ติ๊กเลือกได้ โดยโปรแกรมจะสร้าง Field ใน Database ให้อัติโนมัติ)

เสร็จแล้ว คลิก Ok...ตัวโปรแกรม จะสร้าง .shp ไฟล์ ให้โดยมีตัวหนังสือ อยู่ใน Field ที่ชื่อ TEXTSTRING

การสร้างชั้นข้อมูล ArcView จาก text file

การเปลี่ยนโซน และค่าพิกัดจาก Geographic สู่ระบบ UTM WGS84 Zone 47 ด้วย FWTOOS

การเปลี่ยนโซน และค่าพิกัดจาก Geographic สู่ระบบ UTM WGS84 Zone 47

set GDAL_DATA=C:\Program Files\FWTools2.4.7\data
del spot_utm_wgs84z478.*
C:\"Program Files"\FWTools2.4.7\bin\ogr2ogr -f "ESRI Shapefile" -s_srs epsg:4326 -t_srs epsg:32647 spot_utm_wgs84z48.shp spot.shp

การจัดทำระวางที่ดินมาตราส่วน 1:4,000 ภายในแนวเขตปกครอง

ค้นหาชื่อระวางที่ดินมาตราส่วน 1:4,000 ที่ต้องการจากแผนที่ดังกล่าว โดยการสร้างเส้นกริดจากพิกัดเลขคู่บนแผนที่แนบท้าย และอ่านชื่อระวางที่ต้องการ(เฉพาะช่องกริดที่อยู่ภายในแนวเขตปกครอง)

การรวมรูปภาพเข้าด้วยกัน(Merge) ด้วย QGIS

การรวมรูปภาพเข้าด้วยกัน(Merge) ด้วย QGIS

File Mime-Types

Text

PHP – text/html
HTML – text/html
HTM – text/html
CSS – text/css

Multipart

Application

PDF – application/pdf
ZIP – application/zip
JAVASCRIPT – application/javascript

Image

GIF – image/gif
JPEG – image/jpg
JPG – image/jpg
PNG – image/png

Video

MPEG-1 – video/mpeg
MP4 Video – video/mp4
Quicktime – video/quicktime
WMV – video/x-ms-wmv
3GP – video/3gpp

Audio

MP3 – audio/mpeg
MP4 – audio/mp4
Ogg Vorbis – audio/ogg
If you see any mime-types that are missing, please message me or leave a comment.

ละติจูด(latitude) และลองจิจูด(longitude)

ปัจจุบันไม่มีการเรียกเส้นรุ้ง เส้นแวงอีกแล้ว เพราะตำราเก่าเขียนผิด และอาจารย์ในอดีตสอนมาผิด
ปัจจุบันจะใช้ว่า ละติจูด(latitude) และลองจิจูด(longitude)
ละติจูด(latitude) คือโค้ง(arc)ที่วัดเป็นมุมขึ้นไปทางเหนือของศูนย์สูตร(0 องศา) 90 องศา และวัดเป็นมุมลงไปทางใต้ของศูนย์สูตร 90 องศา ถ้าอยู่ในซีกโลกเหนือ ให้ใส่องศาเหนือ ถ้าอยู่ในซีกโลกใต้ ให้ใส่องศาใต้
เช่นเหนือสุดของไทยอยู่ที่ละติจูด 20 องศา 27 ลิบดาเหนือ
ลองจิจูด(longitude) คือโค้ง(arc)ที่วัดเป็นมุมไปทางตะวันออกของเส้นเมริเดียนปฐม(Prime Meridian)180 องศา และวัดเป็นมุมไปทางตะวันตกของเส้นเมริเดียนปฐม(Prime Meridian)180 องศา ถ้าอยู่ในซีกโลกตะวันออก ให้ใส่องศาตะวันออก ถ้าอยู่ในซีกโลกตะวันตก ให้ใส่องศาตะวันตก
เช่นตะวันออกสุดของไทยอยู่ที่ลองจิจูด 105 องศา 38 ลิบดาตะวันออก

PHP Export Script

<?php
//ENTER THE RELEVANT INFO BELOW
$mysqlDatabaseName ='db123456789';
$mysqlUserName ='dbo123456789';
$mysqlPassword ='myPassword';
$mysqlHostName ='db1234.perfora.net';
$mysqlExportPath ='chooseFilenameForBackup.sql';

//DONT EDIT BELOW THIS LINE
//Export the database and output the status to the page
$command='mysqldump --opt -h' .$mysqlHostName .' -u' .$mysqlUserName .' -p' .$mysqlPassword .' ' .$mysqlDatabaseName .' > ~/' .$mysqlExportPath;
exec($command,$output=array(),$worked);
switch($worked){
    case 0:
        echo 'Database <b>' .$mysqlDatabaseName .'</b> successfully exported to <b>~/' .$mysqlExportPath .'</b>';
        break;
    case 1:
        echo 'There was a warning during the export of <b>' .$mysqlDatabaseName .'</b> to <b>~/' .$mysqlExportPath .'</b>';
        break;
    case 2:
        echo 'There was an error during export. Please check your values:<br/><br/><table><tr><td>MySQL Database Name:</td><td><b>' .$mysqlDatabaseName .'</b></td></tr><tr><td>MySQL User Name:</td><td><b>' .$mysqlUserName .'</b></td></tr><tr><td>MySQL Password:</td><td><b>NOTSHOWN</b></td></tr><tr><td>MySQL Host Name:</td><td><b>' .$mysqlHostName .'</b></td></tr></table>';
        break;
}
?>   

PHP Import Script

<?php
//ENTER THE RELEVANT INFO BELOW
$mysqlDatabaseName ='db123456789';
$mysqlUserName ='dbo123456789';
$mysqlPassword ='yourPassword';
$mysqlHostName ='db1234.perfora.net';
$mysqlImportFilename ='yourMysqlBackupFile.sql';

//DONT EDIT BELOW THIS LINE
//Export the database and output the status to the page
$command='mysql -h' .$mysqlHostName .' -u' .$mysqlUserName .' -p' .$mysqlPassword .' ' .$mysqlDatabaseName .' < ' .$mysqlImportFilename;
exec($command,$output=array(),$worked);
switch($worked){
    case 0:
        echo 'Import file <b>' .$mysqlImportFilename .'</b> successfully imported to database <b>' .$mysqlDatabaseName .'</b>';
        break;
    case 1:
        echo 'There was an error during import. Please make sure the import file is saved in the same folder as this script and check your values:<br/><br/><table><tr><td>MySQL Database Name:</td><td><b>' .$mysqlDatabaseName .'</b></td></tr><tr><td>MySQL User Name:</td><td><b>' .$mysqlUserName .'</b></td></tr><tr><td>MySQL Password:</td><td><b>NOTSHOWN</b></td></tr><tr><td>MySQL Host Name:</td><td><b>' .$mysqlHostName .'</b></td></tr><tr><td>MySQL Import Filename:</td><td><b>' .$mysqlImportFilename .'</b></td></tr></table>';
        break;
}
?>   

Mysql Restore ASCII txt TO UTF8

d:\ms4w\MySQL\bin\mysql --default-character-set=tis620 --user root --password=root roiet_db < ncd_data.sql

NCD ปรับ .Sql ใน Folder SQL และรวม Total

NCD ปรับ .Sql ใน Folder SQL และรวม Total

เมื่อรวบแล้ว จากขนาดไฟล์ 42M เหลือ 29M  Zip แล้วเหลือ 975 KB

Function Del_PersonTable()
Dim rst As Recordset
DoCmd.SetWarnings False
Set rst = CurrentDb.OpenRecordset("SELECT pcucode FROM pcucode GROUP BY pcucode ")
Do While Not rst.EOF
pcucode = rst.Fields("pcucode")
strTablename = "person_" & pcucode
CurrentDb.Execute " DROP TABLE " & strTablename

rst.MoveNext
Loop
End Function

การเขียนโปรแกรม Access 2003 เชื่อมต่อฐานข้อมูล MySQL

ขั้นตอนมีดังนี้
1-โหลด MySQL ODBC 3.51 Driver จาก Web mysql.com มาลงก่อน

2-เข้าไป ที่ เมนู start > run > odbcad32.exe

เลือก system dsn tab

สร้าง DSN ใหม่โดยคลิก Add เลือก MySQL ODBC ...Driver กด finish

ป้อนชื่อ DataSource Name เช่น mysql_mydsn1

ป้อนชื่อ server ถ้าเครื่องตัวเอง ก็ localhost ป้อน user / password ตามปกติถ้าไม่ปรับแต่งอะไร password จะว่างไว้

และ user = root , แล้วเลือก database

ลอง กดปุ่ม test ถ้าบอก ว่า success ให้ผ่านไปข้อ 3 โดยกดปุ่ม OK , ถ้าไม่ผ่านต้องหาทางแก้ไข

3-เปิด MsAccess แล้ว สร้าง Database เปล่าใหม่ สมมุติชื่อ db1.mdb

เลือกเมนู

แฟ้ม > รับข้อมูลภายนอก> นำเข้า > เชื่อมโยงตาราง > เลือกชนิดแฟ้มเป็น ODBC Database()

เลือก Tab Machine Data Source จาก Select Data Souce Dialog box

เลือก mysql_mydsn1 DSN ที่ได้ทำไว้ในขั้นที่2 กดปุ่ม ok แล้ว เลือกตาราง

อาจ กดเลือกทั้งหมดได้ แล้ว กดปุ่ม ตกลง

4-ข้อมูลจะถูกเชื่อมมาสู่ MsAccess

การแก้ไขที่นี่มีผลกระทบกับ ใน Database ใหญ่

จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก

แต่จะง่ายในการป้อนข้อมูล หรือ สร้าง App เล็กๆ ได้

5-การยกเลิกการเชื่อมต่อ ก็แค่ ปิด file mdb เท่านั้น
ที่มา : http://cmpls.net/?name=knowledge&file=readknowledge&id=13