ที่มา:http://solarwato.com/index.php/joomla-license
ความคิดเห็นจากช่างโหน่งครับ แบตเตอรี่เป็นตัวสะสมพลังงาน โซล่าเซลเป็นตัวประจุแบต มีแบตหลายชนิดที่จะนำมาประจุเก็บสะสมไฟไว้ใช้ หลายท่านยังคงสับสนที่จะเลือกตัวใหนดี ท่านที่มีเงินมากหน่อยก็เลือกแพงเข้าไว้(ของดีราคาถูกไม่มี)เข้าล๊อกของ ฝรั่งเลย แต่สำหรับชาวบ้านเราที่หาซื้อได้อย่างดีก็แบตที่ใช้กับรถยนต์ เปรียบเทียบราคาแบตรถยนต์ 150แอมป์ราคาอยู่ที่4,500บาท แบตแบบพิเศษสำหรับโซล่าเซล(Deep Cycle)ราคา5,500 ต่างกันอยู่1,000บาท แล้วใครจะเลือกซื้อของแพง(นอกจากพวกเรียนจบสูง)ชาวบ้าน100%ต้องเลือกซื้อแบ ตธรรมดา ช่างโหน่งเองก็ข้องใจมันต่างกันตรงไหนทั้งๆที่ก็เติมน้ำกรดแบบเดียวกัน จึงไปผ่าพิสูจน์ให้หายข้องใจ(ยังกะนิติเวช) เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วพบว่าแผ่นตะกั่วจะมากกว่าหนากว่าแบตแบบธรรมดาไม่ได้ มีอะไรพิเศษนอกเหนือกับแบตธรรมดา ย่อมแน่นอนตะกั่วมากก็เก็บไฟได้มาก ราคาก็แพงเป็นธรรมดา สรุปว่าไม่มีอะไรที่แตกต่างกับแบตแบบตะกั่วกรดเลย(แหกตาเรา) เมื่อทราบดังนี้ช่างโหน่งจึงหันมาพัฒนาระบบชาร์จไฟจากโซล่าเซลเข้าแบตแบบ ตะกั่วกรดโดยเฉพาะ และไม่หันไปใช้แบตแบบDeep Cycle อีกเลย ประหยัดเงินตั้งเป็นพัน แล้วท่านจะเลือกใช้แบตแบบใหน? ส่วนช่างโหน่งเลือกที่จะใช้แบตแบบตะกั่วกรดของรถยนต์ทั้งนี้เพราะต้องการ กระแสมากในตอนใช้งาน เช่นงานกับเครื่องสูบน้ำ,เครื่องทำความเย็น งานเหล่านี้เวลาเครื่องสตาร์ทจะกินกระแสอยู่ประมาณ10-30แอมป์ดีซี หรือ3แอมป์เอซี แบบนี้ที่เราต้องการ แม้แบตจะใช้ได้เพียง20% แต่เราไปจำกัดที่เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟน้อย เช่นทีวีก็ใช้ที่วีขนาดเล็ก15นิ้วLCDกินไฟแค่1แอมป์ดีซี มันก็เป็นทางออกทางหนึ่งที่ไม่ต้องใช้แบตแบบ Deep Cycle ชาวบ้านเห็นราคาแล้วไม่กล้าควักเงินซิ้อ มันก็ใช้ได้เหมือนกันในตอนแรก ส่วนในอนาคตค่อยว่ากันใหม่ นี้คือนิสัยของคนไทย ด้วยเหตุนี้ช่างโหน่งจึงมีงานทำตลอด นำเอาเทคโนโลยี่ของฝรั่งมาดัดแปลงใช้ให้เหมาะสมกับประเทศไทย ลูกค้าเองก็เข้าใจกับการใช้งาน เพราะฉะนั้น ก็ถนัดใครถนัดมันจะมาตำหนิกันไม่ได้ครับ ขอให้หาเงินได้ก็พอ ส่วนระบบชาร์จเราออกแบบการชาร์ทแบบรุนแรงสามารถจ่ายกระแสได้มากกว่า300แอมป์ หรือต้องการมากกว่านั้นก็ได้ แบตตะกั่วกรดนี้มันชอบความรุนแรง จะเอาระบบชาร์ทของแบตแบบDeep cycle มาใช้พังไปหลายตัวแล้ว เราจึงออกแบบระบบชาร์ทเองไม่มีอุปกรณ์ที่สับซ้อน การใช้งานจึงทนทาน เราจึงกล้ารับประกันถึง 5 ปี ดังนั้นท่านจะเลือกใช้แบตแบบใหนดีลองตัดสินใจดู งานจะสำเร็จขึ้นอยู่กับการทดลอง ทฤษฎีเป็นเพียงแนวทางอาจจะดีหรือไม่ดียังไงก็ต้องทดลองอยู่ดี อย่าเพียงแต่คิดแล้วเฉย ขอให้ประสบผลสำเร็จครับ
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Solar Cell แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Solar Cell แสดงบทความทั้งหมด
วันพฤหัสบดีที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2557
วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556
Solar Cell : UPS ห้ามต่อกับอะไรบ้าง
ที่มา : http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/01/X10144635/X10144635.html
-ห้ามใช้เกินกำลังเครื่อง เช่น UPS 525VA จ่ายโหลดได้ประมาณไม่เกิน 350W ก็ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟเกิน 350Wได้ เลเซอร์ปริ๊นซ์เตอร์นั้นกินกระแสสูงมากจึงไม่สามารถใช้กับ UPSขนาดเล็กๆได้(แน่นอนว่าถ้าเป็น UPSขนาด 10kVAก็สามารถต่อใช้งานได้ไม่มีปัญหา) ถ้าใช้เกินตามคู่มือเค้าจะเรียกอาการนี้ว่า"โอเวอร์โหลด" คือใช้ไฟเกินกำลังที่เครื่องจะรับได้ครับ (บางรุ่นเวลาเสียบใช้ไฟอาคารจะใช้งานได้ปกติ แต่เวลาไฟดับเครื่องจะฟ้องโอเวอร์โหลดต้องระวังเวลาใช้ครับ)
-โหลดประเภทมอเตอร์ ไม่เหมาะสมนักที่จะใช้กับเครื่องสำรองไฟระบบธรรมดาแบบ Line interactive เพราะรูปคลื่นที่ UPSจ่ายออกมาเวลาไฟดับนั้นเป็นแบบเสต็ปเวฟ ซึ่งคนละแบบกับรูปคลื่นแบบซายน์เวฟแบบของการไฟฟ้า โหลดที่เป็นมอเตอร์เช่นพัดลมนั้นจะสะดุดเป็นจังหวะๆเมื่อเวลา UPS ทำการจ่ายไฟสำรองออกมา(ไฟดับ) อย่างไรก็ดี ได้มี UPSหลายยี่ห้อได้ผลิต UPSแบบ Line interactive แบบใหม่ ที่สามารถสร้างรูปคลื่นซายน์เวฟแบบของการไฟฟ้าได้ ซึ่งส่วนมากจะเรียกว่า Pure Sine Wave ซึ่งจะสามารถใช้งานกับโหลดประเภทมอเตอร์ได้ แต่ก็ไม่แนะนำครับ
-โหลดประเภทตู้เย็น/ตู้แช่/แอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้จะมีคอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่เป็นระยะๆ การต่ออุปกรณ์ประเภทนี้เข้ากับ UPS จะทำให้ UPS ทำงานหนักและอายุการใช้งานสั้นลง เพราะเมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานจะเกิดไฟกระชากขึ้นในชั่วขณะ ทำให้ UPSต้องทำงานหนัก และเสียได้ก่อนเวลาอันควรครับ
-ห้ามใช้เกินกำลังเครื่อง เช่น UPS 525VA จ่ายโหลดได้ประมาณไม่เกิน 350W ก็ไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟเกิน 350Wได้ เลเซอร์ปริ๊นซ์เตอร์นั้นกินกระแสสูงมากจึงไม่สามารถใช้กับ UPSขนาดเล็กๆได้(แน่นอนว่าถ้าเป็น UPSขนาด 10kVAก็สามารถต่อใช้งานได้ไม่มีปัญหา) ถ้าใช้เกินตามคู่มือเค้าจะเรียกอาการนี้ว่า"โอเวอร์โหลด" คือใช้ไฟเกินกำลังที่เครื่องจะรับได้ครับ (บางรุ่นเวลาเสียบใช้ไฟอาคารจะใช้งานได้ปกติ แต่เวลาไฟดับเครื่องจะฟ้องโอเวอร์โหลดต้องระวังเวลาใช้ครับ)
-โหลดประเภทมอเตอร์ ไม่เหมาะสมนักที่จะใช้กับเครื่องสำรองไฟระบบธรรมดาแบบ Line interactive เพราะรูปคลื่นที่ UPSจ่ายออกมาเวลาไฟดับนั้นเป็นแบบเสต็ปเวฟ ซึ่งคนละแบบกับรูปคลื่นแบบซายน์เวฟแบบของการไฟฟ้า โหลดที่เป็นมอเตอร์เช่นพัดลมนั้นจะสะดุดเป็นจังหวะๆเมื่อเวลา UPS ทำการจ่ายไฟสำรองออกมา(ไฟดับ) อย่างไรก็ดี ได้มี UPSหลายยี่ห้อได้ผลิต UPSแบบ Line interactive แบบใหม่ ที่สามารถสร้างรูปคลื่นซายน์เวฟแบบของการไฟฟ้าได้ ซึ่งส่วนมากจะเรียกว่า Pure Sine Wave ซึ่งจะสามารถใช้งานกับโหลดประเภทมอเตอร์ได้ แต่ก็ไม่แนะนำครับ
-โหลดประเภทตู้เย็น/ตู้แช่/แอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทนี้จะมีคอมเพรสเซอร์ทำงานอยู่เป็นระยะๆ การต่ออุปกรณ์ประเภทนี้เข้ากับ UPS จะทำให้ UPS ทำงานหนักและอายุการใช้งานสั้นลง เพราะเมื่อคอมเพรสเซอร์ทำงานจะเกิดไฟกระชากขึ้นในชั่วขณะ ทำให้ UPSต้องทำงานหนัก และเสียได้ก่อนเวลาอันควรครับ
วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
Solar Cell-การต่อแบตเตอรี่อย่างไรให้ได้แรงดันไฟฟ้าสูงขึ้น?
ลักษณะการต่อเชื่อมแบตเตอรี่ มีผลต่อขนาดแรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้า ขึ้นอยู่กับความต้องการนำไปใช้งาน และจะต้องเป็นแบตเตอรี่ชนิดเดียวกันเท่านั้นที่จะนำมาต่อเชื่อมกัน "หากผู้ใช้ต้องการแรงดันไฟฟ้าสูงขึ้น" ขอแนะนำให้ต่อเชื่อมแบตเตอรี่แบบอนุกรม (ข้อ 1) โดยการต่อเชื่อมแบตเตอรี่ทำได้ดังนี้
การต่อเชื่อมแบตเตอรี่แบบอนุกรม นำขั้วบวกของแบตเตอรี่อันที่ 1 ต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่อันที่ 2 และนำขั้วบวกของแบตเตอรี่อันที่ 2 ต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่อันที่ 3 ทำเช่นนี้ต่อไปจนครบจำนวนแบตเตอรี่
แรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ทั้งหมดเท่ากับ ผลรวมของแรงดันไฟฟ้าแต่ละแบตเตอรี่มารวมกัน
กระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่ทั้งหมดเท่ากับ ค่าของกระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่เซลล์เดียวเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
การต่อเชื่อมแบตเตอรี่แบบขนาน นำขั้วบวกของแบตเตอรี่อันที่ 1 ต่อเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่อันที่ 2 และนำขั้วบวกของแบตเตอรี่อันที่ 2 ต่อเข้ากับขั้วบวกของแบตเตอรี่อันที่ 3 ทำเช่นนี้ต่อไปจนครบจำนวนแบตเตอรี่ จากนั้นนำขั้วลบของแบตเตอรี่อันที่ 1 ต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่อันที่ 2 และนำขั้วลบของแบตเตอรี่อันที่ 2 ต่อเข้ากับขั้วลบของแบตเตอรี่อันที่ 3 ทำเช่นนี้ต่อไปจนครบจำนวนแบตเตอรี่เช่นเดียวกัน
แรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ทั้งหมดเท่ากับ ค่าของแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่เซลล์เดียวเท่านั้น ไม่เปลี่ยนแปลง
กระแสไฟฟ้าของแบตเตอรี่ทั้งหมดเท่ากับ ผลรวมของกระแสไฟฟ้าแต่ละแบตเตอรี่มารวมกัน
การต่อเชื่อมแบตเตอรี่ทั้งแบบอนุกรมและแบบขนาน โดยนำลักษณะการต่อเชื่อมแบตเตอรี่ 2 แบบมารวมกัน เพื่อให้ได้แรงดันไฟฟ้าและกระแสไฟฟ้าตามที่ต้องการ
Solar Cell-การต่อแบตเตอร์รี
สมมติว่า เรามี ถ่านไฟฉาย 4 ก้อน ขนาด 1.5V 1000mAh 3 ก้อน และ 1.2V 800mAh 1 ก้อน
มาต่ออนุกรมกันทั้งหมด 1 แบบ
และต่อขนานกันทั้งหมด 1 แบบ
อยากรู้ว่า V และ I ของแต่ละแบบ มันจะมีค่าเท่าไรหรือคับ มันจะต่างกับการที่ใช้ ถ่านไฟฉาย ขนาดเท่ากันหมดหรือเปล่าคับ ข้อดีข้อเสีย
A1
ผมก็ไม่แน่ใจนะ ประสบการณ์น้อย
ขนาดของกระแสมันเป็นไปตาม กฎของโอห์ม V = I/R ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับโหลด และก็แหล่งแรงดันของคุณ
1 เมื่อต่ออนุกรมกัน แรงดันที่ได้ก็จะเป็นแรงดันรวมของถ่านแต่ละก้อน เช่นเดียวกับพลังงานที่มันมีก็เป็นพลังงานรวมในแต่ละก้อน
2 เมื่อต่อขนานกัน 4 ก้อนแรกไม่มีปัญหาครับ แต่ก้อนหลังที่แรงดันไม่เท่าชาวบ้านเค้า อาจจะทำให้สายไฟไหม้ หรือถ่านอาจจะระเบิด ทางที่ดีควรมีโหลด มาอนุกรมกับมันอีกซักตัวก่อนจะไปขนานครับ ส่วนแรงดันก็จะเป็นแรงดันที่มากที่สุดที่มาต่อขนานกัน ส่วนพลังงานก็ยังสามารถนำมารวมได้เช่นเดิม
A2
ขอลองตอบเล่นๆ ผมคิดว่า
๑) ถ้าต่อแบตเตอรี่ทั้งห้าก้อนแบบอนุกรม แรงดัน (voltage) ที่ได้จะเท่ากับ 1.5 x 4 + 1.2 = 7.2 volts วงจรนี้จะสามารถจ่ายกระแสได้ไม่เกินความสามารถของแบตเตอรี่ที่อ่อนที่สุด คือจ่ายได้ไม่เกิน 800 mAh
๒) ถ้าต่อแบตเตอรี่ทั้งห้าก้อน แบบขนาน แรงดันจะไม่ถึง 1.5 volts เพราะแบตเตอรี่ตัวที่มีแรงดัน 1.2 volts จะกลายเป็น load ให้อีกสี่ตัวพยายาม charge ถ้าต่างกันแค่ 0.3 volt อาจไม่เป็นไร ขึ้นกับระยะเวลาด้วย แต่อย่างน้อยคงทำให้แบตเตอรี่ตัวเล็กร้อน ส่วนกระแสที่จ่ายได้คงจะเท่ากับ 1000 x 4 + 800 = 4800 mAh
ต้องรออาจารย์นิรันดร์หรือคนอื่นที่รู้จริงตอบ
A3
ขอต่ออีกนิด
รู้สึกว่าน้องต้องการต่อถ่านไฟฉายเพื่อไปจ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับของเล่นอะไรสักอย่าง
การแบ่งประเภทของถ่านไฟฉาย(เซลล์ไฟฟ้าเคมี)
แบ่งได้ 2 ประเภทคือ
1.เซลปฐมภูมิ คือเซลล์ไฟฟ้าที่สามารถใช้งานได้ครั้งเดียว ใช้แล้วทิ้ง
เช่น ถ่านไฟฉายทั่วไป ถ่านอัลคาไลน์ เป้นต้น
2.เซลล์ทุติยภูมิ คือเซลล์ไฟฟ้าที่เมื่อเราใช้งานไปแล้วสามารถนำกลับมาใช้งานได้อีก โดยการประจุไฟใหม่ ทั่วๆไปเรียกว่าการชาร์จประจุ
เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ ถ่านชาร์จต่างๆ ถ่าน Ni-Cd Ni-MH Li-ion เป็นต้น
การนำถ่านไฟฉายมาต่อกันต้องคำนึงถึงชนิดของถ่าน แรงดันของถ่าน กระแสของถ่าน การนำถ่านไฟฉายต่างประเภทกันจะทำให้แรงดันไฟฟ้าที่ได้มีค่าไม่ตรงกับค่าที่ ระบุไว้ที่รายละเอียดของถ่าน และจะส่งผลให้อายุการใช้งานของถ่านสั้นลง
ส่วนความต่างศักดิ์และกระแสในวงจรเหมือนคุณศานติครับ
การคำนวณขนาดความจุแบตเตอรี่
ต้องบอกว่า บทความวันนี้ไม่ได้ คิดเองนะครับ แต่บังเอิญว่าลูกค้าที่ผมไปตรวจสอบ ส่งรายการคำนวณของไฟแสงสว่างฉุกเฉินมาให้ช่วยพิจารณา ซึ่งพอดูแล้วผมว่ามันน่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ เผื่อว่าตอนที่เราจะเปลี่ยนแบตเตอรี่สำหรับไฟแสงสว่างฉุกเฉิน เราจะได้เลือก Spec. ที่ถูกต้องกัน
สำหรับรายการคำนวณนี้เป็นของ บริษัท ซี-ทีแอล คอร์ปอเรชั่่น จำกัด
ซึ่งจำหน่ายอุปกรณ์ด้านไฟแสงสว่างฉุกเฉินและป้ายทางหนีไฟ ใครสนใจก็เข้าไปเวปไซด์เขาได้นะครับ
www.c-tl.com ที่ต้องสาธยายเยอะหน่อยไม่ใช่ว่าได้ค่าโฆษณานะครับ แต่ว่าเพื่อให้เกียรติกันนิด
และเหมือนที่บอกครับบล็อคของผมต้องการที่จะเผยแพร่ความรู้โดยไม่ได้หวังผลกำไรอะไร ดังนั้นเช่นเดียวกันถ้าใครเอาบทความจากบล็อคของผมไปลงในเวปไซด์ใดก็แล้วแต่ อย่างน้อยก็บอกที่มานะครับว่ามาจากhttp://www.safetyenvi.blogspot.com/ เผื่อเดี๋ยวจะมีคนงง ว่าผมไปลอกบทความจากคนอื่นมา 5555
เข้าเรื่องดีกว่า สำหรับ การคำนวณขนาดความจุแบตเตอรี่
ข้อกำหนด
ดวงโคมฉุกเฉินขนาด 35 วัตต์ (ปกติถ้าผมแนะนำก็จะให้ใช้หลอด 35 หรือ 55 วัตต์)
จำนวนดวงโคม 2 ดวง
ระยะเวลาการใช้งาน 2 ชั่วโมง
แรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่ 12 โวลท์
การคำนวณ
กำลังไฟฟ้าที่จ่ายดวงโคม (Power), P = 2 x 35 วัตต์
= 70 วัตต์
กระแสไฟฟ้าที่จ่ายดวงโคม (I) = P/V
= 70/12
= 5.83 แอมแปร์(A)
ระยะเวลาการใช้งาน = 2 ชั่วโมง(h)
ดังนั้นกระแสไฟฟ้าที่จะต้องจ่ายดวงโคม = 5.83 x 2
= 11.66 Ah
คิดเผื่อไว้ 25% (ตามมาตรฐาน IEEE 1184-1994)
ดังนั้นกระแสไฟฟ้าที่จ่ายดวงโคมทั้งหมด = 11.66 x 1.25
= 14.57 Ah.
ดังนั้นจะเลือกใช้แบตเตอรี่ 12 Volt 15 Ah.
ผม ว่าถึงแม้จะเป็นรายการคำนวณที่เป็นพื้นฐานทางไฟฟ้า แต่สำหรับผมที่ไม่ค่อยได้คำนวณเรื่องไฟฟ้าแล้ว ผมว่าโอเคเลยนะครับ ก็ลองเอาไปใช้ดูนะครับ สั่งแบตเตอรี่รอบหน้า จะได้ตอบได้ถ้ามีใครถามว่าทำไมต้องสั่งแบบนี้ ไว้เจอกันเรื่องหน้านะครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)