วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

WDS คืออะไร?

ที่มา:http://www.thelordofwireless.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=2777
WDS ย่อมาจาก Wireless Distribution System ซึ่งเป็นรูปแบบการทำงานแบบหนึ่งของ Access Point (หรือ Wirless Router) ใช้ในการต่อเชื่อมเครือข่าย (Bridge) ระหว่าง WDS node และในขณะเดียวกันก็สามารถทำงานเป็น AP รับการต่อเชื่อมจาก Wireless Client ได้พร้อมกัน (การทำงานในลักษณะ Repeater) 


WDS เหมาะกับการเอาไปใช้แบบไหน? 
- Bridge: WDS สามารถเอาเซ็ตให้มันทำงานแบบ bridge อย่างเดียว โดยไม่รับ wireless client การทำงานแบบนี้เรียกว่า WDS แบบ point-to-point ซึ่งใช้เชื่อมต่อเครื่อข่ายแบบมีสาย 2 แห่งเข้าด้วยกันโดยรวมกันเป็น subnet เดียว 

- Repeater: อันนี้ตรงไปตรงมาครับ เป็นการใช้งานในรูปแบบ repeater คือ WDS node จะทำหน้าที่รับข้อมูลจาก WDS node ตัวอื่นและ repeat สัญญาณออกไปอีกที เป็นการขยายขอบเขตของสัญญาณ ข้อดีคือนอกจากจะทำงานเป็น repeater แล้ว คอมพิเตอร์ที่มาต่อกะ LAN ports ก็ยังสื่อสารกะเครื่องอื่นๆ ได้ด้วย (เทียบๆ แล้วคือ Bridge + Repeater แบบพร้อมๆ กัน) 
ข้อดีของการเอา WDS มาเป็น bridge repeater คือมันสามารถกำหนดได้ ว่าให้ติดต่อกะ WDS node อันไหนบ้าง กรณีที่มี WDS node หลายตัว ซึ่งถ้าเราวางแผนดีๆ มันจะช่วยให้เน็ทเวิร์คมีประสิทธิภาพ (การต่อแบบ star) หรือมีเสถียรภาพเพิ่มขึ้นได้ (เช่นการต่อแบบ loop) http://www.tomsnetworking.com/Sections-article78-page10.php ถ้าเราชอบแบบง่ายๆ เราก็สามารถเลือก lazy WDS คือปล่อยให้มันเชื่อมต่อกะ WDS node อะไรก็ได้ (ไม่แนะนำ) 

ข้อจำกัดของ WDS 
WDS เป็นการเชื่อมต่อแบบไร้สาย AP ทุกตัวในโหมด WDS จะใช้แค่ channel เดียวในการสื่อสารกัน และเนื่องด้วย WLAN 802.11b/g ใช้การสื่อสารแบบ half duplex (ในขณะใดขณะหนึ่งจะรับหรือส่งข้อมูลพร้อมกันไม่ได้ คล้ายๆ การพูดคุยแบบวิทยุ walkie-talkie) ดังนั้น ทุกๆ wireless hop จะต้องเสียเวลาจำนวนหนึ่งในการรับข้อมูลและส่งต่อข้อมูล ส่งผลให้ bandwidth ลดลง ลองพิจารณาข้อมูลตามนี้นะครับ (ก็อบมาจากคำอธิบายของนาย 4Access จาก linksysinfo.org) --- คือมีสาย ~~~ คือการสื่อสารไร้สาย 

1. Wireless Client ~~~ [AP1] --- Wired Network (or Internet) 
แบบแรกคือ AP แบบปกติที่เราใช้ๆ กัน สมมติว่าเราใช้ 802.11g 54Mpbs เอาจริงๆ ใช้ได้ประมาณ 20-24Mbps ซึ่งถ้าเป็นตามนี้เราก็จะสามารถสื่อสารระหว่าง Wireless Client กะ Wired Network ได้ประมาณ 20-24Mbps สมมติว่าส่งข้อมูล 1 packet ใช้เวลา 1ms อันนี้สมมติไว้สำหรับตัวอย่างต่อไปนะครับ เราจะใช้เวลา 1ms ในการส่งข้อมูลจากต้นทางไปยังปลายทาง 

2. Wireless Client ~~~ [AP2] ~~wds~~ [AP1] -- Wired Network 
แบบนี้มี AP2 เพิ่มเข้ามาอีกตัวเพื่อขยายเครือข่าย (repeater) โดยต่อกับ AP1 ด้วย WDS คราวนี้ เราจะเห็นว่าเกิด 2 wireless hops ระหว่าง Wireless Client กะ Wired Network ซึ่งจากเหตุผลเรื่อง half duplex ที่ผมบอกไว้แล้ว การส่งข้อมูล 1 packet จะระหว่าง Wireless Client กะ AP2 จะใช้เวลา 1ms และจาก AP1 ไปยัง AP2 จะใช้อีก 1ms รวมต้นทางถึงปลายทางใช้ 2ms หรือในอีกแง่หนึ่งคือ bandwidth จากต้นทางถึงปลายทางจะเหลือครึ่งหนึ่งของแบบแรก (เหลือ 10-12Mbps) ถ้าต่อหลาย hop จะยิ่งลดลงเรื่อยๆ 

3. Wired Netowork --- [AP2] ~~wds~~ [AP1] -- Wired Network 
แบบที่ 3 ใช้ WDS bridge ระหว่าง wired network เกิด wireless hop อันเดียวแบบรูปแรก ดังนั้นก็จะได้ bandwidth เต็ม (20-24Mbps) 

ปัญหาอีกอย่างของ WDS คือ เสถียรภาพ ซึ่งยังไงๆ ไร้สายมันก็สู้มีสายไม่ได้อยู่แล้ว อันนี้คงต้องขึ้นกับคุณภาพสัญญาณ (ระยะทาง เสาส่ง การรบกวน) และคุณสมบัติของ AP ที่เอามาใช้ทำ WDS Network

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น