แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Province GIS แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Province GIS แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

Create KML From Mysql SHAPE


update  province_geo set kml=astext(SHAPE)

SELECT REPLACE( FieldName ,'คำที่ค้นหา','คำที่เอามาแทน' ) AS NewData FROM TableName

update  amphoe_geo set kml=astext(SHAPE)

update  amphoe_geo set kml=replace(kml,')','');
update  amphoe_geo set kml=replace(kml,'(','');
update  amphoe_geo set kml=replace(kml,'MULTIPOLYGON','');
update  amphoe_geo set kml=replace(kml,'POLYGON','');

update  amphoe_geo set kml=replace(kml,',','|');
update  amphoe_geo set kml=replace(kml,' ',',');
update  amphoe_geo set kml=replace(kml,'|',' ');

วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

การสร้างเสนชั้นความสูง (Contour Line) จาก จุดความสูง (Spot Height) ด้วย Arcview


วิธีการจัดทำข้อมูลทะเบียนทรัพย์สินที่ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายมากที่สุด

ที่มา:http://userspatax.fix.gs/index.php?topic=160.msg722;topicseen#msg722
       
เริ่ม จากข้อมูลทะเบียนทรัพย์สินที่ชำระภาษีแล้ว โดยการจัดเก็บและรวบรวมข้อมูลให้ถูกต้อง ครบถ้วน ทั้งเอกสารและรายละเอียดที่จำเป็น ในกรณีภาษีบำรุงท้องที่ให้จัดทำแบบยื่นแสดงรายการที่ดิน(ภ.บ.ท.5) พร้อมจัดเก็บเอกสารให้ครบถ้วนคือ จะต้องมีสำเนาเอกสารสิทธิที่ดิน(ระบุการใช้ประโยชน์ที่ดินแปลงนั้น) สำเนาบัตรประจำตัวหรือสำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของที่ดิน ประกอบการยื่นแบบฯ เพิ่มให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้บันทึกลงในระบบคอมพิวเตอร์ครับ

กรณีภาษีบำรุงท้องที่ จะพบว่ารายละเอียดที่ต้องการทราบไม่ว่าจะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับเอกสาร สิทธิ์ ที่ตั้ง ขนาดแปลงที่ดิน และเจ้าของแปลงที่ดินนั้นๆ จะปรากฎอยู่ในเอกสารสิทธิ์แล้ว จะมีเฉพาะการใช้ประโยชน์บนที่ดินแปลงนั้นๆ เท่านั้นที่จะต้องสำรวจเพิ่มเติมจากเจ้าของแปลงที่ดินหรือสำรวจภาคสนาม ดังนั้นถ้าเราสามารถจัดเก็บข้อมูลจากเจ้าของที่ดินได้มากเท่าใดก็จะทำให้เรา สามารถจัดทำข้อมูลภาษีบำรุงท้องที่ได้สมบูรณ์ครบถ้วนมากเท่านั้น ซึ่งเป็นการประหยัดงบประมาณในการจัดทำได้อีกทางหนึ่ง

ข้อพึงระวังกรณีจัดทำแผนที่แม่บท

ที่มา :http://userspatax.fix.gs/index.php?topic=268.msg613;topicseen#msg613

ในขั้นตอนของการจัดทำแผนที่แม่บทนั้น โดยทั่วไปจะมีขั้นตอนในการดำเนินการดังนี้
1. ถ่ายภาพระวางที่ดินจากสำนักงานที่ดิน(ขนาดจริง A1) ถ่ายเป็นกระดาษขาว
2. นำภาพถ่ายระวางมากวาดภาพ(scan) ที่รายละเอียด 200-300 จุดต่อนิ้ว
จาก กรณีที่กรมฯจัดอบรมให้นำภาพดังกล่าวเข้าสู่โปรแกรม LTaxGIS แล้วกำหนดค่าพิกัดของมุมทั้งสี่ เพื่อกำหนดตำแหน่งภาพบนระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ แล้วดำเนินการสร้างข้อมูลแปลงที่ดินนั้นมีข้อพึงระวังดังนี้

ขั้น ตอนดังกล่าวจะเกิดความคลาดเคลื่อนของข้อมูลทั้งในขั้นตอนการถ่ายภาพระวางและ ขั้นตอนของการกวาดภาพ ซึ่งจะส่งผลทำให้บริเวณต่างๆ ภาพในภาพที่ได้มีระยะและตำแหน่งที่ผิดไปจากความเป็นจริงครับ สาเหตุจากต้นฉบับที่ผิดรูป บิดเบี้ยว การสอดระวางเข้าเครื่องอาจเอียงไม่ตรง ความต่อเนื่องของการดึงต้นฉบับของเครื่องถ่าย/เครื่องสแกนซึ่งจะส่งผลต่อภาพ ที่ได้

แนวทางการแก้ไขหรือลดความคลาดเคลื่อนดังกล่าว สามารถทำได้โดยการนำภาพที่ได้จากการกวาดภาพไปผ่านขั้นตอนการปรับแก้ความถูก ต้องทางเรขาคณิต(Geo-matric correction)และพิกัดภูมิศาสตร์(Geo-referance)

ระวางแผนที่ L7017 L7018 และ WGS 84 มันต่างกันยังไง

ที่มา :http://thaitopo.editboard.com/t676-topic

  • แผนที่ มาตราส่วน 1:50,000 ชุด L7017 อ้างอิงพื้นหลักฐาน Indian-1975 ครับ (ในชื่อ Indian Thailand-1975) และปัจจุบันเลิกผลิตไปแล้ว แต่ก็มีบางหน่วยงาน ยังใช้แผนที่ชุดนี้อยู่....ความคลาดเคลื่อนค่อนข้างเยอะ ทั้ง 3 แกน 
  • แผนที่ มาตราส่วน 1:50,000 ชุด L7018 อ้างอิงพื้นหลักฐาน WGS-84 (World Geodetic System 1984) ครับ เป็นชุดแผนที่ๆ กำลังใช้กันอยู่ในประเทศไทยปัจจุบัน และการสำรวจจัดทำแผนที่ชุดนี้ ใช้ GPS ในการรังวัดจุดควบคุม ทางราบ-ทางดิ่ง ทั่วประเทศ...ความแม่นยำ จะดีกว่า แผนที่ชุด L7017 
  • WGS-84 คือระบบกริดรูปแบบหนึ่ง ของระบบพิกัดกริด UTM (Universal Traverse Mercator) มีหน่วยที่ใช้บอกระยะทางเป็น เมตร