วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บทสัมภาษณ์ รองศาสตราจารย์ สุนีย์ ประจวบเหมาะ เรื่องของมาตรการเสริมประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ของ อบต

ที่มา: http://www.oag.go.th/News/OrderOAG/Order13/Order13_13.jsp

 รศ.สุนี ใน หมวดที่ 2 มาตรการเสริมประสิทธิภาพ จะเป็นลักษณะที่เราให้เครื่องมือ อย่างเรื่องแรกที่เราเขียนไปในมาตรการ คือ ให้ อบต. ทุกแห่งควรจะต้องทำแผนที่ภาษี และทะเบียนทรัพย์สิน เพราะตัวแผนที่ภาษีตัวนี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการที่จะจัดเก็บรายได้ให้ครบ ถ้วน ถูกต้อง เป็นธรรม เพราะเวลาเราทำเสร็จ จะทราบว่าที่ดินแปลงไหน ควรเก็บภาษีบำรุงท้องที่ ตรงไหนที่เก็บภาษีโรงเรือน ภาษีป้าย เพราะฉะนั้นถ้าเราสามารถทำได้ ก็สามารถที่จะมองได้ว่าตรงไหนเรายังไม่ได้ไปเก็บ เพราะฉะนั้นตรงนี้ต้องมีการสำรวจ เพื่อให้การจัดเก็บครบถ้วน ถูกต้อง เป็นธรรม ถ้ามีเครื่องมืออันนี้แล้วจะช่วยให้ อบต. ทำงานในการจัดเก็บภาษีมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะว่าแผนที่ภาษีเมื่อทำเสร็จแล้วสามารถจะทำทะเบียนทรัพย์สินได้เลย ซึ่งในเรื่องของแผนที่ภาษี คณะทำงานได้ทำรายละเอียดเอาไว้ คือ สำหรับ อบต. ที่ยังไม่พร้อมในเรื่องการหรือเรื่องอะไรก็แล้วแต่ เรามีวิธีการจัดทำเครื่องมือ คือ ทำเอง เอาแผนที่แม่บทมา มาออกสำรวจ ตรงไหนเป็นโรงเรือน หรือเป็นที่ว่างเปล่า แล้วก็ให้ช่างไปสำรวจ แล้วกำหนดขึ้นมา ทำเป็นทะเบียนทรัพย์สิน เราก็สามารถจัดเก็บได้เหมือนกัน แต่ถ้า อบต. ไหนที่มีความสามารถทางด้านการเงินหรือว่า กำลังคนด้วยสามารถทำด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งเราเรียกว่า GIS ซึ่งย่อมาจาก Geographic Information System ซึ่งเป็นโปรแกรม software ตระกูล Microsoft Office ซึ่งสามารถทำงานเชื่อมโยงกับโปรแกรมอื่นได้ ในการทำงานของ อบต. ได้ รวมทั้งการจัดเก็บรายได้ รวมถึงเรื่องอื่น ๆ ในการบริหารงานสามารถทำได้หมด ซึ่งถ้าเรามีโปรแกรมนี้แล้วจะสามารถทำให้ อบต. มีประสิทธิภาพ ข้อโต้แย้งของภาษีจะลดลง ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ โปร่งใสแน่นอน และเป็นฐานข้อมูล ในการบริหารงานด้านอื่นของ อบต. ได้ด้วย อันนี้คือความหวังที่ว่าถ้า อบต. จะมี GIS ได้ทุก อบต. จะทำให้การทำงาน ที่เราเรียกว่าการกระจายอำนาจ ที่ออกไปสู่ท้องถิ่น จะมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น